เส้นเลือดขอดที่เท้า varicose vein

เส้นเลือดขอดที่เท้า varicose vein

เส้นเลือดขอดที่เท้า varicose vein
เส้นเลือดขอดที่เท้า varicose vein
เส้นเลือดขอดที่เท้า varicose vein

เส้นเลือดดำที่เท้าจะมีสองระบบคือเส้นเลือดดำที่ผิวเรียก superficial vein จะนำเลือดจากผิวหนังไปสู่ระบบที่สองคือเส้นเลือดดำที่อยู่ลึกเรียก deep vein ซึ่งนำเลือดกลับสู่หัวใจ โดยมีการบีบตัวของกล้ามเนื้อ เป็นตัวไล่เลือดจากขาไปเส้นเลือดดำใหญ่ในท้อง โดยมีลิ้นๆกั้นเลือดมิให้ไหลกลับ หากลิ้นดังกล่าวเสียซึ่งอาจจะเกิดจากโรคของ valve เอง หรือจากการเสื่อมตามอายุทำให้ไม่สามารถกั้นเลือดไหลกลับเลือดจึงค้างอยู่ในหลอดเลือดดำ จึงเกิดโป่งพองโดยมากเกิดในผู้หญิงอายุ 30-70 ปี

สาเหตุของเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอย

  1. มีความผิดปกติของลิ้นในหลอดเลือดดำ
  2. เป็นกรรมพันธุ์
  3. มีการอักเสบของหลอดเลือดดำ thrombophlebitis
  4. ปัจจัยส่งเสริมเช่น การยืน การนั่งนานๆ 
  5. คนท้อง
  6. อายุมากมีการหย่อนของลิ้นหลอดเลือด
  7. การผ่าตัดโดยเฉพาะบริเวณสะโพก
  8. ผู้ป่วยหัวใจวาย

 

เส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยจำเป็นต้องรักษาหรือไม่

ไม่จำเป็นต้องรักษาการรักษาเป็นเพียงในแง่ความงามเท่านั้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด

  • อายุมากจะเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดเส้นเลือดขอด
  • ประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่ม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นวัยรุ่น การตั้งครรภ์ หรือวัยทอง แม้กระทั่งการรับประทานยาคุมกำเนิดก็จะส่งเสริมทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
  • การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีปริมาณเลือดมาก และมดลูกกดหลอดเลือดทำให้เกิดเส้นเลือดขอด อาการจะดีขึ้นหลังคลอด 3 เดือน
  • อ้วน
  • การนั่งหรือยืนนานๆ
  • การสัมผัสแสงนานๆก็จะเกิดเส้นเลือดฝอยที่ใบหน้า
  • อาการของเส้นเลือดขอดที่เท้า
  •  
  • ปวดเท้าปวดหนักๆ ตึงๆ
  • อาจจะเกิดตะคริวของกล้ามเนื้อ
  • เห็นเส้นเลือดดำพอง
  • บวมหลังเท้า
  • เลือดไปเลี้ยงผิวหนังน้อยลง ผิวหนังบริเวณข้อเท้าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผิวบาง แห้งและค่อนข้างแข็ง
  • หากมีการคั่งของน้ำมากๆ อาจจะเกิดการอักเสบของผิวหนังที่เรียกว่า stasis eczamaซึ่งจะมีอาการคัน หรืออาจจะเกิดแผล
  • เลือดออกจากเส้นเลือดขอด
  • การนั่งหรือยืนนานๆจะทำให้อาการดังกล่าวเป็นมากขึ้น

    เมื่อไรจะต้องไปพบแพทย์

  • เส้นเลือดขอดบวมขึ้น แดง ร้อนและกดเจ็บ
  • มีแผลหรือผื่นบริเวณข้อเท้า
  • ผิวหนังบริเวณเท้า หน้าแข้งและข้อเท้าหนาตัวและมีสีคล้ำ
  • มีเลือดออกจากเส้นเลือดขอด
  • อาการของเส้นเลือดขอดรบกวนคุณภาพชีวิต
  • ภาพที่ปรากฎหน้าเกลียด
  • เส้นเลือดดำโป่งมีกี่ชนิด

  • หลอดเลือดดำใหญ่โป่งมักจะเห็นโป่งนูนขึ้นมาชัดเจน สามารถคลำได้เป็นลำ โดยมากจะมีขนาดเกิน 4 มม
  • หลอดเลือดเล็กซึ่งจะทำให้เห็นเป็นใยแมงมุม คลำไม่พบใักจะพบบริเวณต้นขา ข้อเท้า เท้า อาจจะพบที่หน้า ทางการแพทย์เรียก telangiectasias.
  • การวินิจฉัย
    หากพบเห็นหลอดเลือดดำพองและบิดขดตำแหน่งที่พบบ่อยคือบริเวณน่องก็สามารถวินิจฉัยได้
     บางรายอาจจะใช้ doppler ultrasound
    การฉีดสีเข้าหลอดเลือดดำที่เรียก venogram
    การดูแลตัวเอง
    การออกกำลังกาย การเดินเป็นวิธีดีที่สุดจะเป็นการทำให้การไหลเวียนดีขึ้นแพทย์จะแนะนำวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม
    ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
    ให้สวมรองเท้าส้นเตี้ยซึ่งจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือด หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงที่ฟิตๆ
    ให้ยกขาสูงครั้งละ10-15 นาที วันละ 3-4 ครั้งโดยยกสูงระดับหน้าอก หรือยกขาสูงเมื่อนอนหรือนั่ง
    หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนานๆ
    ใช้elastic bandage พันตั้งแต่ข้อเท้าถึงบริเวณเข่า
    ห้ามนั่งไขว่ห้าง
    ห้ามสวมชุดที่คับเกินไปโดยเฉพาะบริเวณเอว ขาหนีบ
    ลดอาหารเค็มเพื่อป้องกันอาการบวม
    ถ้าหากต้องนั่งนานให้ลุกเดินทุกชั่วโมง และขณะนั่งให้บริหารข้อเท้าตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกาสลับกัน เหยียดเท้าและกระดกเท้าทำสลับกัน
    เป็นเส้นเลือดขอดอันตรายหรือไม่

    ทั้งเส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยมักจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ แต่ก่อให้เกิดความรำคาญ เช่น เท้าหนัก คัน แต่ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้

    แผลที่เท้าซึ่งหายยากเนื่องจากการคั่งของเลือดเป็นระยะเวลานาน
    เลือดออก เนื่องจากผิวหนังบริเวณเส้นเลือดขอดจะบาง ทำให้เกิดแผลและเลือดออกง่าย
    เส้นเลือดดำอักเสบ เนื่องจากเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดฝอย
    ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ ทำให้เท้าบวม และมีอาการปวด หากมีลิ่มเลือดหลุดลอยไปที่ปอดก็จะเกิดปัญหาอันตราย
    จะไปพบแพทย์เมื่อไร

    เส้นเลือดขอดโป่งพองมาก ผิวหนังแดง และเจ็บ ผิวอุ่น แสดงว่ามีการอักเสบ
    เกิดแผลและผื่นใกล้กับข้อเท้า
    ผิวหนังบริเวณข้อเท้าและน่องหนาและมีการเปลี่ยนสีผิว
    เลือดออกจากเส้นเลือดขอด
    ปวดน่องมาก
    การรักษาเส้นเลือดขอดมีกี่วิธี

    จุดประสงค์ของการรักษา

    เพื่อบรรเทาอาการ
    เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน
    เพื่อทำให้ดูดี
    เส้นเลือดขอดที่เท้ารักษาอย่างไร

    ที่นิยมใช้การฉีดสารเคมีที่ระคายต่อผนังหลอดเลือดทำให้ผนังหลอดเลือดบวม เลือดในหลอดเลือดแข็งในที่สุดหลอดเลือดนั้นจะตีบตันเรียก sclerosing therapy

    จุดประสงค์ของการรักษาเส้นเลือดขอดมีดังนี้

    บรรเทาอาการ
    ป้องกันโรคแทรกซ้อน
    ทำให้ดูดี
    แพทย์จะแนะนำการปรับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดขอด หากโรคมีอาการมากแพทย์จะแนะนำการรักษาดังนี้

    การใส่ถุง Support

    การใส่ Support มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด การใส่ Support เพื่อเพิ่มแรงดันต่อหลอดเลือดมิให้โป่งพอง ชนิดทางการแพทย์จะดีที่สุดเพราะสามารถเพิ่มแรงดันต่อหลอดเลือดได้ดี การวัดขนาดควรจะวัดในขณะที่เท้าไม่บวม support นี้ควรจะใส่ทุกครั้งที่ยืน ถุง support มีด้วยกัน 3 ชนิดได้แก่

    การฉีดสารเคมีที่มำให้หลอดเลือดตีบ Sclerotherapy

    เป็นวิถีการรักาาที่ได้ผลทั้งหลอดเลือดขอด และหลอดเลือดฝอยใยแมงมุม วิธีการแพทย์จะแทงเข็มฉีดยาเข้าไปยังหลอดเลือดที่ต้องการรักษา และฉีดสารเคมีเข้าไป สารเคมีนี้จะทำให้ผนังหลอดเลือดบวม และติดกันทำให้เลือดไม่สามารถผ่านไปได้ เพียง2-3 สัปดาห์หลอดเลือดที่โป่งพองก็จะยุบและจางหายไป อาจจะต้องฉีดยาซ้ำโดยทั่วไปทำทุก 4-6 สัปดาห์ หลังจากการฉีดแพทย์จะแนะนำการใส่ถุงน่องที่มีการไล่ระดับความดัน

    ผลข้างเคียงของการรักษา

  • บริเวณที่ฉีดอาจจะมีบวมแดง หรือเลือดออก ซึ่งจะหายไปเอง
  • รอยหลอดเลือดซึ่งอาจจะเป็นสีน้ำตาลซึ่งจะจางหายไปเอง
  • เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดทำให้เกิดการอักเสบ เมื่อประคบด้วยความร้อนและรับประทานแอสไพรินอาการจะดีขึ้น
  • การทำ Laser

    การใช้ laser ของหลอดเลือดที่อยู่ใกล้ผิวหนังซึ่งเป็นเส้นเลือดฝอยจะต้องทำหลายครั้ง เส้นเลือดจึงจะยุบ วิธีการนี้จะทำกับหลอดเลือดที่เล็กกว่า 3 มม ผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดฝอยใยแมงมุงหรือหลอดเลือดขอดเส้นเล็กๆสามารถใช้laserรักษาได้ หลักการจะส่องรังสีlaserไปยังหลอดเลือดเป้าหมายซึ่งจะทำให้หลอดเลือดตีบและจะค่อยดีขึ้น วิธีการนี้ไม่ต้องผ่าตัด แต่จะมีอาการปวดเนื่องจากความร้อน อ่านการทำlaser หลอดเลือดขอด

    การทำ Laser หรือคลื่นวิทยุในหลอดเลือด

    การทำ Laser หรือคลื่นวิทยุในหลอดเลือดการรักษานี้จะทำกับหลอดเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่ วิธีการจะใส่สายเข้าหลอดเลือดปลายสายจะมีอุปกรณ์ที่ให้แสงlaser หรือ คลื่นวิทยุ ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดตีบจึงใช้รักษาหลอดเลือดขอดได้

    การผ่าตัด

    การผ่าตัดจะทำกับหลอดเลือดขอดเส้นใหญ่ ซึ่งจะผ่าเอาหลอดเลือดขอดเส้นนั้นออก ส่วนวิธีการผ่าตัดทำได้หลายวิธี ขึ้นกับสภาพของโรค สภาพของผู้ป่วย ความชำนาญของแพทย์

    โรคแทรกซ้อนของการรักษามีอะไรบ้าง

  • การผ่าตัด จะมีโรคแทรกซ้อนจากการดมยา เช่นคลื่นไส้อาเจียน การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด และยังเกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
    • เพิ่มความเสี่ยงต่อการผ่าตัด และดมยาสลบ
    • เลือดออก
    • การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
    • แผลเป็น
    • มีการทำลายเส้นประสาทที่อยู่กับหลอดเลือด ทำให้เกิดอาการชา
    • อาจจะเกิดลิ่มเลือดอุดหลอดเลือด
  • sclerotherapy โรคแทรกซ้อนขึ้นกับสารที่ใช้ บางชนิดทำให้เกิดอาการแพ้ บางชนิดทำให้เกิดอาการปวด บางชนิดทำให้เกิดรอยดำ
  • การรักษาแต่ละชนิดจะไม่หายขาด เนื่องจากร่างกายอาจจะสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่หรือเส้นเก่าเกิดพองเหมือนก่อนรักษา และยังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดใหม่
  • เส้นเลือดขอดป้องกันได้หรือไม่

    ผู้ป่วยเส้นเลือดขอดมักจะมีอาการปวดน่อง บวมหลังเท้า สีผิวเปลี่ยนแปลง และอาจจะมีแผลที่เท้า เส้นเลือดขอดมักจะพบในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ผูัสูงอายุ อ้วน หรือผู้ที่ต้องยืนนานๆ และพบมากในผู้ที่มีประคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ เส้นเลือดขอดไม่สามารถป้องกันได้แต่ชลอการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ สำหรับผู้ที่ต้องยืนนานควรจะมีการพัก หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง ยกเท้าสู่ในขณะนั่งหรือนอน และให้ออกกำลังกาย